หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาก่อนว่า กลูต้าไธโอน (Glutathione) นั้นเป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี โดยเราจะคุ้นหูกันในชื่อสั้น ๆ ว่า “กลูต้า” ซึ่งก็มีอยู่หลายยี่ห้อ หลายแบรนด์ ที่นิยมและโด่งดังในประเทศเรา แต่จริง ๆ แล้วกลูต้าที่เรารู้จักนั้นอาจจะมีรายละเอียดมากกว่าที่เราคิด เพราะกลูต้าไธโอน เป็นสิ่งที่มีอยู่ในร่างกายคนเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองอยู่แล้ว และมีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งในร่างกายคนเรานั่นเอง กลูต้าส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ตามบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเราจะพบกลูต้ามากที่สุดบริเวณตับ
ถึงแม้ว่าร่างกายคนเราจะสามารถสังเคราะห์กลูต้าไธโอนได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้นกลูต้าที่สังเคราะห์ได้จากร่างกายก็จะน้อยลง ตามการเสื่อมสภาพของเซลล์ ดังนั้นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเติมกลูต้าเข้าไปในร่างกาย เพื่อประโยชน์ในการต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคและภาวะเจ็บป่วยมากมาย เช่น มะเร็ง โรคตับ เบาหวาน ความดัน เป็นต้น ซึ่งในภาวะร่างกายของผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับ มะเร็ง ผู้ที่สูบบุหรี่จัด จะมีความต้องการกลูต้ามากกว่าปกติ นอกจากนี้อย่างที่รู้กันดีว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนช่วยทำให้ผิวสวย โดยกลูต้าจะเข้าไปทำหน้าที่เกี่ยวข้องในส่วนนี้ยังไง ต้องตามไปดูกัน โดยวันนี้ Shopee Thailand รวบรวมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ของกลูต้าในด้านสุขภาพ ความงาม และยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงผิว จากกลูต้าแบรนด์ดัง ๆ มาแนะนำกันด้วย ตามไปดูกันเลย!
กลูต้าไธโอน (Glutathione) คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกายชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีน อาศัยอยู่ในเซลล์ร่างกายของคนเรา และทำหน้าที่ในการปกป้องเนื้อเยื่อไม่ให้ถูกทำลายจากสารต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ในร่างกาย โดยปกติร่างกายคนเราจะสามารถสังเคราะห์กลูต้าไธโอนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งกลูต้าไธโอนจะถูกสร้างขึ้นภายในเซลล์ และถูกส่งออกมานอกเซลล์โดยอาศัยตัวพามาเก็บสะสมสำรองไว้ที่ตับ และเซลล์อื่น ๆ ที่สามารถพบสารกลูต้าไธโอนได้บ่อย เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว ปอด ไต ตับอ่อน เลนส์แก้วตา เป็นต้น
กลูต้าไธโอนเป็นสารประเภท Tripeptide ซึ่งประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cystein, Glycine, Glutamic Acid ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างเอนไซม์ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามกลูต้าไธโอนในร่างกาย สามารถลดลงได้จาก อายุที่มากขึ้น ความเครียด มลภาวะ แสงแดด และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ อย่างการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ไม่ครบ 5 หมู่ ก็สามารถทำให้กลูต้าไธโอนในร่างกายลดลงได้ ดังนั้นเราจึงควรเติมกลูต้านไธโอนอยู่เสมอ สำหรับวิธีการเติมกลูต้าไธโอนเข้าสู่ร่างกายก็จะมีอยู่ 3 วิธี คือ การเติมจากแหล่งอาหารที่สามารถพบกลูต้าไธโอน, การเติมกลูต้าไธโอนจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ ผิวพรรณยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือการฉีดกลูต้าไธโอนเข้าสู่ผิว ซึ่งเป็นวิธีเร่งด่วนและต้องอยู่ในการดูแลควบคุมของแพทย์เฉพาะทาง
กลูต้าไธโอนสามารถพบได้ในพืช ผัก ผลไม้ทั่วไป และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยจะพบมากในแหล่งอาหารธรรมชาติ อย่าง อะโวคาโด, บร็อกโคลี่, ผักโขม, เห็ด,มะเขือเทศ, หน่อไม้ฝรั่ง ปลาแซลมอน, เนื้อวัว, เนื้อหมู ยเกิร์ต, ไข่, นม, สรอเบอร์รี่, ส้ม, เกรปฟรุ้ต, แอปเปิ้ล, องุ่น, แตงโม เป็นต้น
ไขข้อสงสัยข้องใจว่าประโยชน์ของกลูต้ามีอะไรบ้าง? อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่ากลูต้าเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นในรูปโปรตีน หรือกรดอะมิโน 3 ชนิด ซึ่งเป็นสารประเภท Tripeptide ได้แก่ Cystein, Glycine, Glutamic Acid โดยกรดอะมิโนทั้งสามชนิดนี้จะสะสมอยู่ในเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายหลายจุด โดยจะพบมากเป็นพิเศษที่ ตับ สมอง ไต ปอด และม้าม มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้านมาก ๆ เพราะกลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูง ซึ่งประโยชน์ของกลูต้าไม่ช่วยแค่ในเรื่องทำให้ผิวขาวกระจ่างใสเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมาก มาดูกันว่ากลูต้าช่วยอะไร และทำหน้าที่อย่างไรบ้าง
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ประโยชน์ของกลูต้าที่สำคัญที่สุด คือการเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์สูง จึงช่วยป้องกันเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายไม่ให้เกิดภาวะเสื่อมมากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ไม่ถูกทำลายด้วยการเข้าไปยับยั้งสารอนุมูลอิสระ ช่วยให้ วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินอื่น ๆ ทำงานได้อย่างเต็มที่ ประโยชน์ของกลูต้าไธโอนในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงมีส่วนช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย และป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
ช่วยดีท็อกซ์ (Detoxification) ประโยชน์ของกลูต้าไธโอนที่ทำหน้าที่รองลงมา คือช่วยขับสารพิษออกจากเซลล์ โดยช่วยสร้างเอนไซม์ที่ไปเปลี่ยนสารพิษชนิดที่ไม่ละลายน้ำ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง รวมไปถึงสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตับ ให้ละลายน้ำได้ดีขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย และสามารถป้องกันตับถูกทำลายจากแอลกอฮอล์ สารพิษจากบุหรี่ และการรับประทานยาได้
เสริมระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Booster) ประโยชน์ของกลูต้าไธโอนในการเสริมระบบภูมิคุ้มกัน คือการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้มีประสิทธิภาพ และปริมาณมากขึ้น และยังกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด ให้ต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ไม่ให้เกิดการเจ็บป่วย รวมถึงยับยั้งเซลล์มะเร็งด้วย
ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส (Skin Lightening) ประโยชน์ของกลูต้าไธโอนที่สาว ๆ ให้ความสนใจมากที่สุด โดยประโยชน์ของกลูต้าในเรื่องผิวขาวมาจากการที่กลูต้าไธโอนเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ทำให้เกิดการสร้างเมลานินหรือเม็ดสีผิวชนิดเข้มลดลง ยับยั้งและเปลี่ยนเม็ดผิวสีน้ำตาลเป็นสีขาวชมพู จึงช่วยทำให้โทนผิวกระจ่างใสขึ้น
เพราะว่ากลูต้ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายทั้งเรื่องสุขภาพร่างกาย และด้านความงามอย่างการช่วยให้ผิวขาว แต่ว่ากลูต้าไม่ได้อยู่กับร่างกายเราในปริมาณคงที่ตลอดเวลา และมีการเสื่อมสภาพ การสังเคราะห์ที่น้อยลงไปตามสภาพร่างกาย อายุ ภาวะเครียด และปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น การเติมกลูต้าเข้าไปในร่างกาย จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ รักษาสภาพเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยให้ผิวสวยกระจ่างใส ดูสุขภาพดี
วิธีกินกลูต้าให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องกินสารตั้งต้นอย่างกรดอะมิโน 3 ชนิดอย่าง Cystein, Glycine, Glutamic Acid เข้าไป ซึ่งวิธีกินกลูต้าแบบที่เป็นสารสังเคราะห์สำเร็จรูปมาแล้ว ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับร่างกายเลย เนื่องจากกลูต้าไธโอนไม่สามารถดูดซึมผ่านกระเพาะอาหารได้ และจะถูกย่อยสลายและขับออกจากลำไส้ก่อน วิธีการกินกลูต้าแบบนี้จึงไม่เกิดประโยชน์อะไรแม้จะกินในปริมาณมากแค่ไหนก็ตาม ทั้ง วิธีกินกลูต้าแบบแคปซูล วิธีกินกลูต้าแบบชงน้ำ ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกาย แล้ววิธีกินกลูต้าแบบไหน ที่ทำให้ได้รับประโยชน์ของกลูต้ามากที่สุด? เรามีคำตอบ มีวิธีกินกลูต้าให้ได้ประโยชน์อยู่ 2 วิธีดังนี้
วิธีกินกลูต้าจากแหล่งอาหารธรรมชาติ กลูต้าเกิดจากกรดอะมิโน 3 ชนิดอย่าง Cystein, Glycine, Glutamic Acid ซึ่งสามารถพบได้ในแหล่งอาหารโปรตีนไร้ไขมัน (เนื้อสัตว์ปีกไร้มัน ถั่วเหลือง เวย์โปรตีน และโยเกิร์ต เป็นต้น) อาหารประเภทเซเลเนียม (ทูน่า ข้าวโอ๊ต วอลนัท เนยแข็ง เนื้อวัว ไข่) ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณที่สูง (ส้ม ทับทิม สตรอว์เบอร์รี มะนาว มะเขือเทศ บรอกโคลี่ อะโวคาโด แตงกวา) ซึ่งมีส่วนของสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กลูต้าไธโอน ช่วยให้ร่างกายผลิตกลูต้าไธโอนได้ดีขึ้น
วิธีกินกลูต้าไธโอนจากสารสกัดในอาหารเสริม วิธีการกินกลูต้าไธโอนแบบนี้ แตกต่างจากการกินกลูต้าไธโอนแบบชง หรือแบบแคปซูลทั่วไป เพราะเป็นวิธีกินกลูต้าไธโอนจากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กลูต้าไธโอน เพื่่อให้ร่างกายสามารถสร้างกลูต้าไธโอนขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง สารสกัดที่ว่านี้ส่วนใหญ่สกัดมาจาก ผัก ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยอาหารเสริมประเภทนี้ได้รับความนิยมสำหรับคนรักสุขภาพ ความงาม เพื่อบำรุงผิวให้สวยใส ดูสุขภาพดี